ลักษณะเด่นประจำพันธุ์
ผลดกโดยเฉลี่ยประมาณ 21 ผล/ต้น กรอบอร่อย ผลเป็นสีเขียวสลับขาว ต้นมะเขือสามารถบำรุงรักษาไว้ได้นานเกิน 1 ปี
ดิน/สภาพอากาศที่เหมาะสม
ชอบดินร่วนปนทราย
คำแนะนำในการปลูก
แช่เมล็ดไว้ 1 คืน จากนั้นเอามาบ่มผ้าไว้จนรากงอก แล้วนำเมล็ดลงหว่านในแปลงหรือเพาะกล้าในกระบะเพาะก่อนแล้วค่อยย้ายปลูกหลังต้นกล้าอายุ 1 เดือนในแปลงที่เตรียมไว้
ระยะห่างระหว่างต้น x แถว
50 ซม. X 50 ซม. เหมาะสำหรับปลูกแปลงกลางแจ้ง
การดูแลและบำรุงรักษา
– การให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1, 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 35-40 วัน, 55-60 วัน, หลังเก็บเกี่ยวผลรอบแรก ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว (ให้สังเกตพืชด้วยว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
– การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง
มีหนอนเจาะผลมารบกวนบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก แก้ปัญหาโดยการฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้และเด็ดผลที่หนอนเจาะทิ้งเพื่อต้นพืชจะได้ไม่ต้องส่งอาหารไปเลี้ยงผลที่เสีย
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
150-160 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวกินได้
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
ช่วงอายุประมาณ 95-100 วัน ดอกจะเริ่มทยอยบาน ซึ่งจะบานไม่พร้อมกัน ผลก็จะเริ่มแก่ซึ่งอายุจะอยู่ที่ 180 วัน ต้องทยอยเก็บผลที่เป็นสีเหลืองทั้งผล จากนั้นนำมาทิ้งไว้ในร่มประมาณ 2-3 วัน แล้วนวดผลเพื่อให้เมล็ดหลุดอออกจากเนื้อผล แล้วฝ่าเอาเมล็ดออก จากนั้นล้างทำความสะอาดเมล็ด เมล็ดที่จมจะเป็นเมล็ดที่ดี ส่วนเมล็ดที่ลอยเป็นเมล็ดที่ไม่ดีให้เททิ้งไป จากนั้นใช้ตะแกรงล้างน้ำผ่านอีกครั้ง ทิ้งไว้ให้หมาดก่อนแล้วค่อยนำมาตากแดด (ในการตากควรใช้ผ้ารองเมล็ดตากก่อน) ตากประมาณ 3-4 แดด แล้วเช็คความสะอาดอีกรอบ แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป
หมายเหตุ : ต้นมะเขือสามารถตัดแต่งกิ่งได้หลังการเก็บเกี่ยวรุ่นที่ 1 ใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งและใส่ปุ๋ยหมักเพื่อให้กิ่งใหม่ออกมาซึ่งจะสามารถเก็บผลได้อีก