บัวบก: แนวทางปลูกเกษตรอินทรีย์

บัวบก Centella asiatica เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี ในวงศ์ Apiaceae (วงศ์ผักชี) พบได้ทั่วไปในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำของทวีปเอเชีย นิยมใช้เป็นทั้งผักและสมุนไพร

 

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

1. สภาพภูมิอากาศ
1.1 อุณหภูมิ: ร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 25-30 °C
1.2 ความต้องการแสง: ไม่ชอบแสงแดดจัด
1.3 ปริมาณน้ำฝน: ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,200 –2,500 มิลลิเมตรต่อปี

2. สภาพพื้นที่
พื้นที่ดอน ไม่มีน้ำขัง หรือควบคุมน้ำได้ดี ไม่เหมาะกับพื้นที่แห้งแล้ง

3. สภาพดิน
3.1 โครงสร้างของดิน – ดินร่วนปนทราย ชื้นแฉะ
3.2 ปริมารอินทรียวัตถุ – มีอินทรียวัตถุอุดมสมบูรณ์
3.3 ลักษณะของดิน – เป็นดินมีความชุ่มชื้นมาก ระบายน้ำ

4. ธาตุอาหาร – ต้องการธาตุไนโตรเจนค่อนข้างมาก เพื่อให้มีใบมากขึ้น

5. สภาพน้ำ – มีความสะอาด ไม่มีสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ที่เป็นพิษปนเปื้อน ไม่มีโลหะหนักปนเปื้อน

 

แนวทางในการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์

การเตรียมดิน

* ไถพรวนให้ดินร่วนซุยแล้ว ตากแดดทิ้งไว้ 10 วัน
* ในกรณีที่มีวัชพืชมาก ให้ไถพรวนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
* ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์

 

การเตรียมพันธุ์

* ปักชำ โดยใช้ไหล ตัดแยกไหลที่มีต้นอ่อนและรากนิดหน่อย
* รดน้ำให้ชุ่มพอ
* ที่เพาะชำ ควรอยู่ในที่ร่ม ไม่ควรตากแดดตลอดทั้งวัน
* ประมาณ 20 – 30 วัน กล้าชำน่าจะพร้อมย้ายปลูก

 

การปลูก

* ขุดหลุมปลูกตื้นๆ ระยะ 15 x 15 ซม.
* ใช้สแลน 50% คลุมแปลง ซึ่งจะทำให้บัวบกอวบน้ำ เหมาะสำหรับขายเป็นผักสด แต่ต้องระวัง เพราะอาจเกิดปัญหาโคนเน่าได้
* ในกรณีปลูกเพื่อขายเป็นสมุนไพรแห้ง อาจปลูกกลางแจ้ง (ซึ่งต้นจะสั้นกว่าปลูกในร่ม) เพราะจะใช้เวลาอบแห้งสั้นกว่า และได้น้ำหนักดี
* หมั่นรดน้ำ ให้แปลงชุ่มชื้น

 

การให้ปุ๋ย

* หลังจากย้ายปลูกประมาณ 30 วัน อาจใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่ม โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีไนโตรเจน
* หลีกเลี่ยงปุ๋ยมูลไก่ เพราะมีความเสี่ยงโลหะหนักปนเปื้อน

 

การให้น้ำ

ให้น้ำบัวบกทุกวันเช้า-เย็น ให้ชุ่ม เพื่อให้แปลงชุ่มชื้นตลอด

 

เตรียมแปลงปลูก

* ยกร่องเป็นแปลงปลูก กว้าง 3 เมตร ระหว่างแปลงจัดเป็นร่องน้ำหรือทางเดินกว้าง 50 ซม. ลึก 15 ซม. เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
* ใส่ปุ๋ยอินทรีย์และถ่านไบโอชาร์ รดน้ำ ปล่อยทิ้งไว้อย่าง 30 – 45 วันก่อนย้ายกล้ามาปลูก

 

การกำจัดวัชพืช

ในช่วงระยะแรก ควรกำจัดวัชพืชด้วยการถอนทุก 14 วัน  จนบัวบกโตขึ้นคลุมแปลง

 

ศัตรูที่สำคัญและการป้องกันกำจัด

* โรคโคนเน่ารากเน่าของบัวบก ให้ใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาฉีดพ่นในแปลง
* หนอนกินใบ ถ้าพบจำนวนไม่มาก เก็บตัวออกไปทำลาย

 

การเก็บเกี่ยว

หลังจากปลูกประมาณ 60-90 วัน เริ่มเก็บเกี่ยวได้ ใช้เสียมเหล็กขุดเซาะบริเวณใต้ราก

 

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว

* นำต้นบัวบกออกมาล้างน้ำ ทำความสะอาดเศษดิน เก็บใบเหลืองเศษวัชพืชอื่นๆ ที่ปะปนมา ใช้มีดตัดแต่งต้น
* นำไปผึ่งลมให้แห้ง ใช้เวลาประมาณ 3 วัน
* บัวบกสด 10 กิโลกรัม เมื่อตากแห้งจะเหลือน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม

 

สายพันธุ์

* พันธุ์ที่ให้ผลผลิตดี คือพันธุ์ตราด รองลงมา คือ พันธุ์เชียงราย พันธุ์พะเยา
* พันธุ์ที่มีปริมาณสาร Asiaticcoside สูงที่สุด คือ พันธุ์ระยอง รองลงมา คือ พันธุ์พะเยา ราชบุรี

 

ผลผลิตเฉลี่ย

ผลผลิตบัวบกสดต่อไร่เฉลี่ย 800 – 1,789 กิโลกรัมต่อไร่

 

เอกสารอ้างอิง

 

ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ [คู่มือปลูกบัวบกเกษตรอินทรีย์ 367 KB]